^ Back to Top

ประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4 : The 4th Young Ocean for Life Innovation Challenge

ประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4 : The 4th Young Ocean for Life Innovation Challenge

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอเชิญนิสิต นักศึกษา ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ครั้งที่ 4 : The 4th Young Ocean for Life Innovation Challenge ภายใต้โครงการ PTTEP Teenergy ปีที่ 10 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1,050,000 บาท

วัตถุประสงค์

  • เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงการสร้างเครือข่ายเยาวชนที่สนใจด้านการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
  • เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ และออกแบบนวัตกรรม พร้อมทั้งสนับสนุนการนำเสนอผลงานที่สามารถต่อยอดสู่การใช้งานจริง
  • เพื่อส่งเสริมการบูรณาการองค์ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

หัวข้อการประกวด
แบ่งเป็น 3 หัวข้อการประกวด ได้แก่

  • Protect การปกป้องท้องทะเล จากภัยคุกคามต่าง ๆ โดยเฉพาะวิกฤติระดับโลกสามด้านนั่นคือ มลภาวะจากขยะและน้ำเสีย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
    ตัวอย่างนวัตกรรม
    • การดักจับและกำจัดขยะในระบบนิเวศทางน้ำ รวมถึงการจัดการขยะในชุมชนชายฝั่ง เพื่อลดการไหลของขยะลงสู่ระบบนิเวศทางทะเล
    • การจัดการน้ำเสียจากชุมชนชายฝั่งก่อนปล่อยลงสู่ทะเล เพื่อลดมลภาวะทางน้ำและรักษาสมดุลระบบนิเวศ
    • ระบบบำบัดน้ำเสียจากบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อคืนคุณภาพน้ำสู่ธรรมชาติอย่างยั่งยืน
    • การป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากพายุและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เพื่อรักษาระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ
    • การจัดการน้ำมัน หรือสารเคมี กรณีเกิดเหตุรั่วไหลลงสู่ทะเล
    • การปกป้องระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและทะเลเดือด
    • อุปกรณ์ลดแสง เพื่อป้องกันปะการังฟอกขาวทั้งบริเวณน้ำตื้นและน้ำลึก
    • อุปกรณ์ไล่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ให้เข้าใกล้อวน
    • การศึกษาวิจัยไมโครพลาสติกและผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
    • ระบบแจ้งเหตุและหน่วยเคลื่อนที่เร็ว โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
    • การควบคุมการเดินเรือในพื้นที่หญ้าทะเล
  • Preserve การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะระบบนิเวศชายฝั่งที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ให้สามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน
    ตัวอย่างนวัตกรรม
    • ระบบเพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Hatchery) ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
    • บ้านปลาเพื่อสร้างแหล่งอาศัยทางทะเล ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน
    • การพัฒนาทุ่นลอยน้ำ สำหรับกำหนดเขตอนุรักษ์ทะเล
    • การฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลโดยการฟื้นฟูป่าชายเลน ปะการัง และหญ้าทะเล เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ
    • การทำประมงยั่งยืนและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล เช่น อุปกรณ์ประมงที่ช่วยคัดกรองสัตว์น้ำวัยอ่อน เรือประมงพลังงานสะอาด
    • การใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล
    • ปะการังเทียม เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
    • การตรวจสอบปริมาณคาร์บอน ในรูปแบบบลูคาร์บอน
    • แนวเขตการใช้ประโยชน์แหล่งหญ้าทะเล เพื่อการฟื้นฟู
    • การวิจัยข้อมูลสมุทรศาสตร์ เช่น กระแสน้ำ ตะกอนดิน เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • การติดไมโครชิพและแถบระบุตัวตน เพื่อติดตามสัตว์ทะเลหายาก
    • ระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาด
  • Provide การสร้างโอกาสเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลรอบอ่าวไทยมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามรูปแบบเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) และ BCG Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็น โมเดลเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน
    ตัวอย่างนวัตกรรม
    • การพัฒนาอาหารจากทรัพยากรทางทะเล เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากร เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน
    • การใช้สารสกัดจากทรัพยากรทางทะเล เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
    • การแปรรูปขยะทะเลให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า เช่น การนำอวนร้างและขยะพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
    • การเปลี่ยนขยะทะเลเป็นพลังงานหมุนเวียน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่ยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลกลยุทธ์ “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life)
ปตท.สผ. ดำเนินงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และการฟื้นฟูความสมดุลของท้องทะเล ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติเป้าหมายที่ 14 การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 14: Life Below Water) โดย ปตท.สผ. ได้กำหนดเป้าหมายระยะยาว (ปี 2563 – 2573) ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ดังนี้

  • ด้านที่ 1 สำรวจและผลิตเพื่อพิทักษ์อนุรักษ์ทะเล (Sustainable Ocean-Friendly Operations)
    ปตท.สผ. ให้ความสำคัญในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ การนำยานขับเคลื่อนใต้น้ำแบบอัตโนมัติ (Autonomous Underwater Vehicle: AUV) มาใช้ในการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ใต้น้ำ (Smart Underwater Inspection and Maintenance) การนำน้ำจากกระบวนการผลิตกลับเข้าสู่แหล่งกักเก็บปิโตรเลียม (Produced Water Reinjection) ให้ได้ร้อยละ 100 ในพื้นที่ปฏิบัติการนอกชายฝั่งของประเทศไทย และขยายผลไปยังพื้นที่ผลิตอื่น ๆ ในต่างประเทศ โดยดำเนินงานตามมาตรฐานสากล สอดคล้องกับกฎหมายและเหนือกว่าระดับของกฎหมายที่กำหนดไว้ในบางประเทศ รวมถึงการศึกษาแนวทางการจัดวางปะการังเทียมรูปแบบโครงสร้างเหล็ก (Rig to Reef) ร่วมกับการสำรวจความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ดำเนินการนอกชายฝั่งของ ปตท.สผ. เพื่อบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศบริเวณแท่นผลิตและสนับสนุนกระบวนการรื้อถอนสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ต่าง ๆ จากการประกอบกิจการปิโตรเลียมเมื่อเลิกใช้งาน
  • ด้านที่ 2 ฟื้นฟูดูแลความสมบูรณ์ทางทะเลและบลูคาร์บอน (Sustainable Ocean Health and Blue Carbon Solutions)
    ปตท.สผ. มุ่งสู่เป้าหมายของการเป็นศูนย์ข้อมูลทางทะเลที่สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลทั่วไปที่ต้องการมีส่วนร่วมในการปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางทะเลและนักวิจัยที่สนใจในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ โดยใช้พื้นที่ปฏิบัติการนอกชายฝั่งของ ปตท.สผ. เป็นจุดเริ่มต้น รวมถึงสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ มหาวิทยาลัยชั้นนำ และองค์กรอิสระด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อริเริ่มการดำเนินโครงการสนับสนุนการเก็บข้อมูลทางสมุทรศาสตร์และการศึกษาวิจัยทางทะเลต่าง ๆ อาทิ โครงการศึกษาและวิเคราะห์ปริมาณไมโครพลาสติก (Micro–plastic Baseline Study) ครั้งแรกในอ่าวไทย โครงการฟื้นฟูข้อมูลทางสมุทรศาสตร์ในประเทศไทย เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยและสร้างเครือข่ายด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลของโลก โครงการพัฒนาคลาวด์ แพลตฟอร์ม ในการติดตามความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ตลอดจนสัตว์ทะเลหายาก โดยเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของประเทศ โครงการพัฒนาการสำรวจระบบนิเวศและกิจการชายฝั่งด้วยการประยุกต์ใช้โดรนและเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของมหาสมุทร
  • ด้านที่ 3 พลิกฟื้นคืนทะเล เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน (Sustainable Community around the Ocean)
    เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทย และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนที่พึ่งพาทรัพยากรจากทะเลในการดำรงชีพ ปตท.สผ. ได้กำหนดกรอบการดำเนินงาน ประกอบด้วย 6 โครงการสำคัญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ดังนี้
    • โครงการที่ 1 โครงการบริหารจัดการขยะทะเล (Ocean Waste Management)
      มีเป้าหมายเพื่อคงความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล โดยการส่งเสริมการบริหารจัดการขยะในครัวเรือนจากชุมชน การสร้างชุมชนต้นแบบในการแยกขยะและการนำของเสียกลับมาใช้หมุนเวียนใหม่ การติดตั้งทุ่นดักขยะในลำคลอง การพัฒนานวัตกรรมจากขยะเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลแก่ประชาชนทั่วไป
    • โครงการที่ 2 โครงการปลูกป่าชายเลน (Mangrove Forestation)
      มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล ด้วยการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมเพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำชายฝั่งของประเทศไทย โดยดำเนินการปลูกป่าเพิ่มเติมและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมการเก็บข้อมูลวิจัยเพื่อจัดทำฐานข้อมูล Biodiversity Baseline ของแปลงปลูกป่าในทุกพื้นที่ เพื่อให้กลับมาเป็นระบบนิเวศป่าชายเลนที่สมบูรณ์ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายพิทักษ์ป่า เพื่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่แปลงปลูกป่าชายเลนของ ปตท.สผ. เพื่อการอนุรักษ์และปกป้องพื้นที่ป่าชายเลนที่ผ่านการปลูกและฟื้นฟู และเป็นการเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ชายฝั่งทะเลในอนาคต นอกจากนี้ ผืนป่ายังสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มชนิดพันธุ์สัตว์หน้าดินอีกด้วย
    • โครงการที่ 3 โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ (Aquatic Animal Hatchery Learning Center)
      มีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้และขยายพันธุ์สัตว์น้ำ ส่งเสริมการทำประมงเชิงอนุรักษ์ และสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายชุมชนประมงพื้นบ้านที่เข้มแข็ง สนับสนุนการทำประมงอย่างยั่งยืนเพื่อฟื้นฟูปริมาณสัตว์น้ำเศรษฐกิจในท้องถิ่น ผ่านการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เพื่อเป็นฐานในการเพาะฟักลูกปูและสัตว์น้ำวัยอ่อนก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล ช่วยเพิ่มปริมาณทรัพยากรทางทะเล และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเพาะฟักสัตว์น้ำให้มีประสิทธิภาพ เป็นระบบ และได้มาตรฐาน เพื่อยกระดับองค์ความรู้และทักษะของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
    • โครงการที่ 4 โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล (Sea Turtle Conservation)
      มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการอนุบาลและรักษาเต่าทะเล เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลหายากให้คงอยู่ มุ่งเน้นการเพาะพันธุ์ลูกเต่าเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรและการรักษาเต่าทะเลบาดเจ็บให้มีอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น โดยการสนับสนุนการพัฒนาศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทั้งในด้านการปรับปรุงอาคารบ่ออนุบาลและโรงพยาบาลเต่าทะเลให้มีความทันสมัย ถูกสุขลักษณะตามหลักวิชาการ และเหมาะสมกับภารกิจการดูแลสัตว์ทะเลหายาก เพื่อให้สามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์เต่าทะเลและทรัพยากรทางทะเลแก่ประชาชนทั่วไป ผ่านการจัดทำสื่อการเรียนรู้ การจัดนิทรรศการ และการปรับปรุงอาคารจัดแสดงให้มีความเหมาะสมและทันสมัย เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และการดูแลรักษาไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่มีภารกิจด้านการอนุรักษ์เต่าทะเล เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
    • โครงการที่ 5 โครงการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลและบ้านปลา (Coastal Conservation Area and Fish Home)
      มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำที่หลากหลายตามลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ โดยเป็นการต่อยอดความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นในการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล รวมถึงสนับสนุนการจัดสร้างบ้านปลา (ซั้ง) จากวัสดุจากธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและหลบภัยของสัตว์น้ำชายฝั่ง ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถจัดตั้งแนวเขตอนุรักษ์บริเวณชายฝั่งทะเลรวมกว่า 15.5 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมทั้ง 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย เพื่อสนับสนุนการเพิ่มมูลค่าความหลากหลายทางชีวภาพและการบริการทางระบบนิเวศทางทะเล (Biodiversity and Ecosystem Services: BES) และเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย
    • โครงการที่ 6 โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากทะเล (Sea Products Development)
      มีเป้าหมายเพื่อเสริมศักยภาพและและสร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพด้านการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลในพื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้แก่ชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่า ตลอดจนส่งเสริมองค์ความรู้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและงานวิจัย การออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ การจัดอบรมและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผลิตและการตลาด รวมถึงการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากทะเลสู่ตลาดอย่างยั่งยืน

คุณสมบัติของผู้ส่งผลงานเข้าประกวด

  • เป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือชาวต่างชาติ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
  • มีสถานภาพเป็นนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ถึง ระดับปริญญาตรีในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย
  • อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์
  • ผู้ที่เคยสมัครเข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลแล้ว สามารถส่งผลงานได้

ขั้นตอนการส่งผลงานเข้าประกวด

  • ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ Facebook Fanpage : PTTEP CSR
  • สมัครเป็นทีม ทีมละไม่ต่ำกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างน้อย 1 คน และ ไม่เกิน 2 คนต่อทีม
  • เลือกส่งผลงานได้เพียง 1 ผลงาน ใน 1 หัวข้อ เท่านั้น
  • กรอกแบบฟอร์มรับสมัครให้ครบถ้วน และส่งผลงานในรูปแบบตามกำหนดไว้เท่านั้น
  • ส่งสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาบัตรประจำตัวนิสิต นักศึกษา ที่ออกโดยสถาบันการศึกษา
  • จัดทำโครงร่างผลงาน (Proposal) โดยอัปโหลดไฟล์ในรูปแบบ .pdf ความยาวไม่เกิน 10 หน้าขนาด A4 ใช้อักษร Cordia New ขนาด 16 จัดระยะขอบกระดาษทุกด้าน 2.5 เซนติเมตร ขนาดไฟล์ไม่เกิน 10 MB เท่านั้น
  • จัดทำรูปภาพประกอบผลงานนวัตกรรม โดยอัปโหลดไฟล์ในรูปแบบ .jpeg ไม่เกิน 5 รูป ขนาดไฟล์รวมไม่เกิน 10 MB เท่านั้น
  • จัดทำคลิป VDO การนำเสนอผลงาน ความยาวไม่เกิน 3 นาที โดยอัปโหลดไฟล์ลงบน YouTube และคัดลอกลิงก์ VDO จาก YouTube ลงในแบบฟอร์มรับสมัคร

หัวข้อในข้อเสนอโครงการ (Proposal)

  • ระบุหัวข้อการประกวด (เลือกได้ 1 หัวข้อ)
  • ที่มาและแนวคิดของผลงาน (อธิบายแรงบันดาลใจ ปัญหา หรือเหตุผลที่ทำให้เกิดแนวคิดนวัตกรรม)
  • วัตถุประสงค์ (อธิบายว่าผลงานมุ่งแก้ไขปัญหาอะไร ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร และวิธีการวัดผลลัพธ์)
  • วิธีการดำเนินงาน (อธิบายขั้นตอนการดำเนินโครงการอย่างเป็นลำดับ)
  • การนำไปใช้ประโยชน์ (วิเคราะห์ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ ว่าขยายผลได้กว้าง หรือจำกัดอยู่ในบางหน่วยงาน)
  • แบบร่างผลงาน (จัดทำแบบร่างนวัตกรรม ซึ่งอาจอยู่ในรูปของอุปกรณ์ ความคิด หรือวิธีการ โดยต้องอธิบายแนวคิดและการใช้งานอย่างชัดเจน พร้อมจัดทำภาพประกอบ สามารถใช้การวาดมือหรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์)
  • งบประมาณ (ระบุค่าใช้จ่ายในการผลิตผลงาน)
  • ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ระบุประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้)
  • เอกสารอ้างอิงงาน (ระบุงานวิจัยหรือเอกสารอ้างอิงไม่น้อยกว่า 3 ฉบับ ทั้งจากในประเทศและ/หรือต่างประเทศ)

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข

  • ผู้สมัครต้องกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มรับสมัครและส่งผลงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยสามารถศึกษาข้อมูลโครงการและผลงานนวัตกรรมที่ผ่านมาได้จากเอกสารรายละเอียดโครงการ
  • ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่ซ้ำกับผลงานที่เคยส่งมาก่อน เว้นแต่มีการพัฒนาต่อยอดหรือสร้างความโดดเด่นเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ
  • ผู้สมัครสามารถศึกษารายละเอียดการให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้จาก “เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการประกวดนวัตกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล” (ดาวน์โหลดได้จากช่องดาวน์โหลดเอกสาร Privacy Notice)
  • ปตท.สผ. ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดกลุ่มผลงานให้ตรงตามหัวข้อที่กำหนด
  • หากผลงานที่ส่งเข้าประกวดเคยได้รับรางวัลจากหน่วยงาน หรือองค์กรอื่นมาแล้ว ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องระบุในแบบฟอร์มรับสมัครให้ชัดเจน
  • ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่สื่อความหมายและไม่มีลักษณะที่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นการดูหมิ่น เสียดสี หรือก่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม ไม่มีนัยทางการเมือง และไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
  • กรรมสิทธิ์และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับผลงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นของผู้ส่งผลงานเข้าประกวด เว้นแต่กรณีที่ได้รับรางวัล ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดขอให้ความตกลง ดังต่อไปนี้
    • ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดยินยอมให้ ปตท.สผ. จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะในรูปแบบเอกสาร สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิทัล หรือสื่อรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าในเวลาใด ๆ เพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการใด ๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ปตท.สผ. มีดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวว่าจะแสดงชื่อผู้ส่งผลงานเข้าประกวดในการเผยแพร่ หรือประชาสัมพันธ์ โดยผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะไม่โต้แย้ง หรือเรียกร้องสิทธิใด ๆ จากการใช้ดุลพินิจดังกล่าว
    • ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังเสร็จสิ้นการประกวด ปตท.สผ. อาจทำความตกลงร่วมกับผู้ส่งผลงานเข้าประกวดเพื่อพัฒนาผลงานที่ส่งเข้าประกวดร่วมกัน หรือทำความตกลงกับผู้ส่งผลงานเข้าประกวดเพื่อนำผลงานที่ส่งเข้าประกวดดังกล่าวไปวิจัย หรือพัฒนาต่อแต่เพียงผู้เดียว
    • ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดยินยอมให้ ปตท.สผ. ใช้หรือแสดงชื่อ–นามสกุล ชื่อทีม ชื่อผลงาน รวมถึงข้อมูลผลงาน ไม่ว่าทั้งหมด บางส่วน หรือโดยย่อ เพื่อการประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ หรือกิจกรรมอื่นใดที่ ปตท.สผ. เห็นสมควร
  • ผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 15 ทีม จะต้องเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) อย่างน้อย 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิก ณ จังหวัดระยอง จำนวน 2 วัน 1 คืน โดยมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง
  • ผู้ได้รับคัดเลือกผลงานทั้ง 15 ทีม ที่ศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาต่างจังหวัด (ไม่รวมสถาบันการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ที่มาเข้าร่วมกิจกรรม สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ไม่เกินอัตราค่าโดยสารของรถโดยสารปรับอากาศชั้นหนึ่ง จากสถานีขนส่งของจังหวัดที่ตั้งของสถาบันการศึกษา ถึงสถานีขนส่งหลักในกรุงเทพมหานคร อาทิ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ สถานีรถไฟดอนเมือง เป็นต้น หรือจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ให้เลือกสถานีปลายทางที่อยู่ใกล้กับจังหวัดต้นทางมากกว่า โดยให้เบิกค่าใช้จ่ายได้ตามจริงตามหลักฐานที่ปรากฏในบัตรโดยสาร รวมจำนวน 2 เที่ยว (ไป-กลับ) สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไป–กลับจังหวัดระยอง ปตท.สผ. จะจัดรถรับส่งให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาที่กำหนด
  • ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดต้องไม่นำผลงานของผู้อื่นมานำเสนอเป็นผลงานของตนเอง รวมทั้งต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการที่ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด กระทำผิดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องรับผิดแต่เพียงผู้เดียวในการกระทำผิดกฎหมาย หรือความเสียหายต่อบุคคลภายนอกดังกล่าว และหาก ปตท.สผ. ได้รับความเสียหายไม่ว่าในทางใด ๆ อันเนื่องมาจากกระทำผิดกฎหมาย หรือการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าว ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดตกลงรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ปตท.สผ.
  • การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด ไม่สามารถอุทธรณ์ หรือโต้แย้งได้ หากพบว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติ หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข แม้ภายหลังประกาศผลแล้ว คณะกรรมการมีสิทธิ์เพิกถอนผลการตัดสินและเรียกรางวัลคืนทันที รวมถึงดำเนินการทางกฎหมายตามสมควร
  • ในกรณีที่ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดได้รับเงินรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดยินยอมให้ ปตท.สผ. หักชำระภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 5 ตามกฎหมาย
  • เงื่อนไขอื่น ๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการและ ปตท.สผ. ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใด ๆ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

เกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน)

  • ความสอดคล้องกับองค์กร (30/100)
    • มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเพื่อสังคม ภายใต้กลยุทธ์ “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) หรือการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. และการสร้างประโยชน์ต่อการดำเนินงานในเชิงคุณภาพและปริมาณ
    • มีความสอดคล้องกับเป้าหมายและการสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ (30/100)
    • มีองค์ประกอบของทรัพยากรที่เอื้อต่อความสำเร็จ ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ สามารถใช้งานได้จริง ระยะการพัฒนา รวมถึงความพร้อมในการผลิตนวัตกรรมและนำมาใช้ได้ทันที
    • ชุมชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้โดยง่าย ปลอดภัย และสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ
    • โอกาสในการเป็นต้นแบบนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้
    • มีแผนการทำงานและแผนการจัดการที่แสดงถึงความยั่งยืนของนวัตกรรม
    • ความคุ้มค่า: งบประมาณที่ใช้เทียบกับผลที่คาดว่าจะได้รับของโครงการ
  • ผลกระทบเชิงบวก (20/100)
    • ความพยายาม ความท้าทาย และความซับซ้อน ในการนำความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มาสู่การปฏิบัติ
    • แสดงการวิเคราะห์ปัญหาและส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในทุกรูปแบบที่ชัดเจน
    • ส่งผลกระทบอันเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
    • ผลงานนวัตกรรมและกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ความคิดสร้างสรรค์ (20/100)
    • แนวทางคิดที่สร้างสรรค์
    • ความแปลกใหม่ ยังไม่เคยมีคนทำมาก่อน หรือต่อยอดได้อย่างน่าสนใจ โดยไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น

กำหนดการรับสมัครและการประกวด

  • รับสมัครและส่งผลงาน : 1 ตุลาคม - 25 ธันวาคม 2568
  • ประกาศผลรอบคัดเลือก 15 ทีม (3 หัวข้อ ๆ ละ 5 ทีม) ทาง Facebook Fanpage : PTTEP CSR : กุมภาพันธ์ 2569
  • ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีม เข้าร่วมกิจกรรม Workshop (ทุกทีมต้องมีผู้เข้าร่วมอบรมอย่างน้อย 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกในทีม) : มีนาคม 2569
  • (จัดกิจกรรมจำนวน 2 วัน 1 คืน ณ จังหวัดระยอง)
  • ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีม ส่งผลงานรอบสุดท้าย (Final Proposal) : พฤษภาคม 2569
  • ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีม นำเสนอผลงานในรอบตัดสินและร่วมพิธีมอบรางวัล : 3 มิถุนายน 2569

หมายเหตุ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม และการจัดกิจกรรมอาจจัดขึ้นในรูปแบบ Onsite และ/หรือ Online โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 15 ทีม เพื่อยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรม

การเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ส่งผลงานเข้าประกวด
หากมีการเปลี่ยนแปลง/แก้ไขรายชื่อผู้ส่งผลงานเข้าประกวด ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด ต้องแจ้ง ขอเปลี่ยนรายชื่อ พร้อมเหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษร มายังผู้ประสานงานโครงการ ล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนทำการแข่งขันในรอบสุดท้าย เพื่อให้ทางคณะกรรมการโครงการพิจารณาต่อไป (กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงภายหลังระยะเวลาดังกล่าวถือว่าผู้ส่งผลงานเข้าประกวดสละสิทธิ์เข้าร่วมการประกวด

รางวัลการประกสด

  • รางวัล
    • รางวัลชนะเลิศ ในแต่ละหัวข้อการประกวด ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 130,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร
    • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในแต่ละหัวข้อการประกวด ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 70,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร
    • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในแต่ละหัวข้อการประกวด ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร
    • รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ในแต่ละหัวข้อการประกวด ได้รับเงินรางวัล ทีมละ 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร
  • รางวัลพิเศษ
    • ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละหัวข้อการประกวด มีสิทธิได้รับการพิจารณาเพื่อรับเงินรางวัลพิเศษ รางวัลละ 40,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดผลงานต่อไป ทั้งนี้ การตัดสินขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่วมกันของ ปตท.สผ. และคณะกรรมการโครงการ โดย ปตท.สผ. ขอสงวนสิทธิ์ในการมอบรางวัลให้แก่ทีมที่พิจารณาแล้วว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น
    • ทีมที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินรางวัลพิเศษ ต้องจัดทำข้อเสนอโครงการ (Proposal) ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาคัดเลือก
    • ทีมที่ได้รับเงินรางวัลพิเศษสำหรับนำโครงการไปพัฒนาต่อยอด ต้องดำเนินการตามข้อเสนอโครงการ (Proposal) ภายใน 45 วัน นับแต่ได้รับเงินรางวัลพิเศษ
    • คำชี้ขาด หรือคำตัดสินของ ปตท.สผ. และคณะกรรมการโครงการในทุกกรณี ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ส่ง ผลงานเข้าประกวดจะอุทธรณ์ หรือโต้แย้ง มิได้

ติดต่อสอบถาม

  • คุณสุขหทัย ปิโยบล
    • โทรศัพท์ : 081-775-0862, 02-731-5035-7 ต่อ 404
    • อีเมล : pttepteenergy.project@gmail.com
  • คุณสุวัจนี นาคอาจหาญ
    • โทรศัพท์ :081-775-0863, 02-731-5035-7 ต่อ 404
    • อีเมล :pttepteenergy.project@gmail.com
  • คุณธันยพร กลางนุรักษ์
    • โทรศัพท์ : 02-537-4000
    • อีเมล : thunyapornk@pttep.com
มูลค่าเงินรางวัลรวม: 
1,050,000 Baht
File attachments: 
ค่าสมัคร: 
หมดเขต: 
01 ต.ค. 2025 (All day) to 25 ธ.ค. 2025 (All day)

Members Online

There are currently 0 users online.