ประกาศผลการประกวดภาพถ่ายเชิงข่าว ครั้งที่ 6 สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟซีซีที) และออนเอเชีย
กรุงเทพฯ – สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟซีซีที) และออนเอเชีย เอเจนซี่ ภาพถ่ายออนไลน์ชั้นนำ ได้ทำการประกาศรายชื่อผู้ชนะเลิศการประกวดภาพถ่ายเชิงข่าว ครั้งที่ 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การประกวดภาพถ่ายครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปี ที่ดึงดูดช่างถ่ายภาพมืออาชีพกว่า 375 ท่านให้ส่งผลงานกว่า 6, 000 ชิ้นเข้าร่วมประกวด ซึ่งคณะกรรมการได้คัดสรรผู้ชนะในแต่ละประเภท ได้แก่ ภาพในเหตุการณ์ข่าว ภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว ภาพเกี่ยวกับประเด็นการอพยพ (ประเภทการแข่งขันพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดยคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย) และภาพชุดเล่าเรื่อง นอกจากนั้นคณะกรรมการยังได้คัดเลือกช่างภาพดีเด่นประจำปีซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของการประกวดอีกด้วย
โดยเหล่าผู้ได้รับรางวัลจากการประกวดภาพถ่ายเชิงข่าว ครั้งที่ 6 ได้แก่
ช่างภาพแห่งปี ประเภทภาพชุดเล่าเรื่อง
โดย วลาด โซคิน
ชาวดานีคนสุดท้าย
ประชากรชาวดานีที่อาศัยอยู่ในหุบเขาบาเลียม ซึ่งตั้งในจังหวัดเวสต์ปาปัว ประเทศอินโดนีเซีย ในอดีตพวกเขาใช้ชีวิตตามแบบยุคหินและกินเนื้อพวกเดียวกันเพื่อดำรงชีวิต แต่ในปี พ.ศ. 2522 เมื่อจังหวัดเวสต์ปาปัวร่วมกัประเทศอินโดนีเซีย นโยบายการตั้งถิ่นฐานภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อบังคับให้ผู้อาศัยละทิ้งขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของพวกเขา ส่งผลให้สินค้าราคาถูกจากประเทศอินโดนีเซียและจีนอพร่หลายทั่วภูมิภาค ประชากรที่นับถือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเริ่มลงน้อยลงเรื่อยๆ มีเพียงประชาชนในหมู่บ้านแถบใกล้วาเมนา เมืองหลวงของบาเลียม วาลเลย์เท่านั้นที่ยังใช้วิถีชีวิตแบบดานีดั้งเดิมอยู่ นักท่องเที่ยวต่างชาติยินดีจ่ายเงินให้พวกเขาสำหรับการถ่ายภาพและซื้อสินค้า หัตถกรรม ซึ่งหัวหน้าแต่ละหมู่บ้านยังคงใช้ฝักปกปิดอวัยวะเพศอยู่ แต่พวกเขาจะเก็บเงินออมที่หามาได้ไว้ในธนาคารและรักษาวิถีชีวิตในรูปแบบดั้ง เดิมนี้เอาไว้เพียงเพื่อหารายได้เท่านั้น
ในภาพ อาซิค ฮาลู อายุ 67 ปี โพสต์ท่าอยู่ใกล้กับเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารบีอาร์ไอ ในเมืองวาเมนา อาซิคทำรายได้จากนักท่องเที่ยวโดยเขาอนุญาตให้พวกเขาถ่ายภาพ แลกกับค่าตอบแทนราคา 50 เซ็นต์ ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการถ่ายภาพหนึ่งครั้ง นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศน์ท้องถิ่นอีกด้วย ทำให้เขามีรายได้มากถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐ ถึง60 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันและเขายังคงเก็บเงินที่หามาได้ไว้ในธนาคารต่อไป
ผู้ชนะการประกวดประเภทภาพในเหตุการณ์ข่าว
โดย มูเนียร์ อัซ ซามาน จากสำนักข่าวเอเอฟพี
ชาวมุสลิมโรฮิงญา ขณะกำลังพยายามจะข้ามแม่น้ำนาฟไปยังประเทศบังคลาเทศ เพื่อหนีจากความรุนแรงในประเทศพม่า ขณะมองออกไปนอกเรือ ในเมืองเท็คน๊าฟ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555 โดยชาวมุสลิมโรฮิงญาอย่างน้อย 50 คน เสียชีวิตในรัฐยะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของประเทศพม่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงเกี่ยวกับการแบ่งแยก และการโจมตีแก้แค้นระหว่างชาวพุทธ และชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ยืดเยื้อยาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์
รางวัลชมเชยประเภทภาพในเหตุการณ์ข่าว
โดย คริสโตเฟอร์ อาชชงบรูต จากสำนักข่าวเอเอฟพี
นางอองซานซูจี (กลาง) ผู้นำพรรคฝ่ายค้านพม่า กำลังโบกมือขณะที่รถเคลื่อนฝ่าฝูงชนผู้สนับสนุน พร้อมกับที่เธอมาถึงการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์การเลือกตั้งของเธอ ณ สนามกีฬาในเมืองปะเต็นซึ่งอยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งขึ้นไปทางด้านตะวันตกเป็นระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
รางวัลชมเชยประเภทภาพในเหตุการณ์ข่าว
โดยไกเซอร์ ไฮเดอร์
อาช่าโมนี (อายุ 1 ปีครึ่ง) ได้เสียชีวิตพร้อมกับครอบครัวในเหตุการณ์ดินถล่มครั้งล่าสุดในเมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ โดยจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มทุกปี
ผู้ชนะการประกวดประเภทภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
โดย อเล็กซ์ โฮฟฟอร์ดจาก องค์กรกรีนพีช
โจเอล กอนซากา นักประดาน้ำ จากเรือประมงฟิลิปปินส์ที่มีชื่อว่า “Vergene” เขามีอาชีพทำงานประมงปลาทูน่า โดยใช้เพียงแค่ท่ออากาศพลาสติกเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ขึ้นสนิมบนเรือประมงในการทำงานเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 บางทีวิธีดังกล่าวอาจเป็นการจับปลาที่อันตรายที่สุด โดยการใช้ท่อพลาสติกเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์เป็นที่รู้จักในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อเรียกว่า “ปาลิง (Pa-aling)” ซึ่งกอนซากาให้ข้อมูลว่า เขาใช้เวลาอยู่บนเรือหลายเดือนในแต่ละครั้งทำให้เห็นการบาดเจ็บร้ายแรงและเสียชีวิตบ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากที่สุด คือ การเสียชีวิตจากการดำน้ำด้วยวิธีปาลิงเนื่องจากอาการป่วยจากความดันที่ลดลงหรือ “the bends” วิธีการจับปลาที่เป็นอันตราย เช่น วิธีปาลิงถือเป็นเหตุหลักที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการจับปลาปริมาณมากเกินไปในแถบประเทศฟิลิปินส์และรอบนอก
รางวัลชมเชยประเภทภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
โดย อัคลาส อุดดิน
ผู้ใช้แรงงานดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ขณะที่ทำงานอยู่ในโรงงานรีไซเคิลพลาสติกขนาดเล็กที่ ตั้งอยู่ในเมืองซิลเฮต เพื่อดำรงชีวิต งานของเธอ คือการแยกขวดสีที่แตกต่างกันก่อนนำขวดไปล้างทำความสะอาดแล้วทำให้แห้งเพื่อแลกกับค่าจ้างวันละประมาณ 100 ถึง 120 ทากา (1.25 ดอลลาร์สหรัฐถึง 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ) เธอ ยังเก็บเศษน้ำมันปรุงอาหารที่หลงเหลือในขวดกลับไปบ้านเพื่อปรุงอาหารให้กับ ครอบครัวของเธออีกด้วย โดยเกือบร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในประเทศบังคลาเทศมีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าระดับ ความยากจนและมีชาวบ้านอีกเป็นจำนวนมากเข้ามาในเมืองเพื่อหางานทำ
ผู้ชนะการประกวด ภาพเกี่ยวกับประเด็นการอพยพ - จากพม่าสู่เมืองบัฟฟาโล
ภาพชุดเล่าเรื่อง โดย เจมส์ โรเบิร์ต ฟูลเลอร์
จากพม่าสู่เมืองบัฟฟาโล : ตั้งถิ่นฐานใหม่ยังประเทศสหรัฐอเมริกา บท ความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะยาวเกี่ยวกับครอบครัวชาวกะเหรี่ยงที่ อพยพไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและวิธีที่พวกเขาเรียนรู้ที่จะปรับตัวใช้ชีวิต ที่นั่นจากสถิติของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าจากปี พ.ศ. 2549 ถึงปลายปี พ.ศ.2554 มีผู้ลี้ภัยจำนวน 83,902 คน จากประเทศพม่าอพยพมาตั้งถิ่นฐานยังประเทศสหรัฐอเมริกาโดยคิดเป็นกว่าร้อยละ 27 ของผู้ลี้ภัยที่เดินทางมายังประเทศ สหรัฐอเมริกา เอกสารของโครงการดังกล่าวแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ภายในครอบครัว และกระตุ้นพัฒนาการที่แตกต่างกันของสิ่งพวกเขาเรียกว่า “บ้าน” และเมื่อถึงเลาที่พวกเขามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการเป็นพลเมืองสหรัฐฯและได้รับคำเชิญจากนางอองซานซูจี ที่เรียกร้องให้ชาวพม่าพลัดถิ่นกลับคืนสู่บ้านเกิด พวกเขาได้รับการนำเสนอทางเลือกว่าจะดำเนินชีวิตที่ไหนอย่างไรในอนาคต
ในภาพ เชอร์ เนย์ตู (อายุ 19 ปี) พูดคุยกับเด็กๆ ในพื้นที่ซึ่งอยากรู้เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กของเขาในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก
ผู้ชนะการประกวด ภาพชุดเล่าเรื่อง – ความงานอันลุ่มลึก
โดย คาซูฮิโกะ มัตสึมูระ
นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของ ไมโกะ และไกโกะ ในเมืองเกียวโต ที่ประกอบด้วยชุมชนทั้งสิ้น 5 ชุมชน ผู้หญิงหลายคนปรารถนาที่จะเป็นไมโกะ ก็จะมาที่ชุมชนเหล่านี้ แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็จะจากไปอย่างรวดเร็วเพราะความเข้มงวดในการใช้ชีวิตของไมโกะและไกโกะมีความเข้มงวด พวกเธอต้องต้อนรับแขก โดยเฉพาะผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวยในงานปาร์ตี้สุดหรูสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นพวกเธอจึงต้องสง่างาม สุขภาพนุ่มนวล สวยงาม และสนุกสนาน พวกเธออาศัยอยู่ในบ้านกับมาดาม โดยได้รับการฝึกฝนวิธีการปฏิบัติตนให้เป็นไมโกะกับมาดามซึ่งมันเป็นงานที่หนักมาก หลังจากที่ได้เป็นไมโกะหลายปี เมื่อพวกเธอมีอายุเกิน 20 ปี พวกเธอเลื่อนสถานะเป็นไกโกะ
ในภาพ อุเมยาเอะ อายุ 21 ปี และอุเมชิเอะ อายุ 16 ปี กำลังทำความสะอาดห้องพักโดยในทุกๆ เช้า พวกเขาต้องซักรีดเสื้อผ้า และต้องทำความสะอาดห้องต่างๆ รวมถึงโรงน้ำชาที่พวกเขาใช้สร้างความบันเทิงให้กับแขก ก่อนที่จะไปฝึกการแสดงเพื่อความบันเทิงสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
ผู้ชนะการประกวด ภาพชุดเล่าเรื่อง – ความงานอันลุ่มลึก
โดย คาซูฮิโกะ มัตสึมูระ
นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของ ไมโกะ และไกโกะ ในเมืองเกียวโต ที่ประกอบด้วยชุมชนทั้งสิ้น 5 ชุมชน ผู้หญิงหลายคนปรารถนาที่จะเป็นไมโกะ ก็จะมาที่ชุมชนเหล่านี้ แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็จะจากไปอย่างรวดเร็วเพราะความเข้มงวดในการใช้ชีวิตของไมโกะและไกโกะมีความเข้มงวด พวกเธอต้องต้อนรับแขก โดยเฉพาะผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวยในงานปาร์ตี้สุดหรูสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นพวกเธอจึงต้องสง่างาม สุขภาพนุ่มนวล สวยงาม และสนุกสนาน พวกเธออาศัยอยู่ในบ้านกับมาดาม โดยได้รับการฝึกฝนวิธีการปฏิบัติตนให้เป็นไมโกะกับมาดามซึ่งมันเป็นงานที่หนักมาก หลังจากที่ได้เป็นไมโกะหลายปี เมื่อพวกเธอมีอายุเกิน 20 ปี พวกเธอเลื่อนสถานะเป็นไกโกะ
ในภาพ โทมิทาเอะ อายุ 16 ปี กำลังเล่นเกมโทระ โทระ อยู่กับแขกของเธอ โดยเธอรับบทเป็นเสือและแขกของเธอรับบทเป็นผู้บัญชาการทหาร ในเกมส์นี้แขกของเธอเป็นฝ่ายชนะ เพราะว่าผู้บัญชาการทหารมีอำนาจที่จะชนะเสือ
ช่างภาพแห่งประจำปี - ความรุนแรงต่อผู้หญิงในปาปัว ภาพชุดเล่าเรื่อง
โดย วลาด โซคิน
ในปาปัวนิวกินี สองในสามของผู้หญิงได้พบเจอกับความรุนแรงภายในครอบครัว และอีกประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงได้ตกเป็นเหยื่อของการถูกคุกคามทางเพศ ความโหดร้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์พบมากในหลาย จังหวัด ในกรณีของการเสียชีวิตที่ไม่คาดคิดในหมู่บ้าน ประชาชนมักจะกล่าวหาว่าผู้หญิงเป็นสาเหตุการตายและความทรมานเธอ โดยประชาชนจะบังคับให้ยอมรับว่าตัวเธอเป็นแม่มด ส่งผลให้เหยื่อเสียชีวิตจากการถูกลงโทษ ถึงแม้ผู้หญิงจะรอดชีวิตอ เธอก็มักจะถูกขับไล่ออกจากชุมชนเป็นการถาวร ถึงแม้ความรุนแรงจะกระจายอย่างกว้างขวางแต่รัฐบาลประเทศปาปัวนิวกินี ก็ ไม่ได้มีโครงการที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงอันเกี่ยวข้อง กับเวทมนตร์และไม่ได้จัดหาที่พักพิงให้ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อแต่อย่างใด
ในภาพ ราสต้า (อายุประมาณ 60 ปี) ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด จากคนในหมู่บ้านของเธอ หลังการตายของชายหนุ่มคนหนึ่งในปี พ.ศ. 2546 ระหว่างงานศพ ฝูงชนได้รุมล้อมราสต้า และเริ่มทุบตีเธออย่างรุนแรง เอาเชือกมารัดคอ ปาขวาน มีดและท่อนไม้ใส่ ราสต้าหลบหนีออกมาได้และวิ่งเข้าไปในบ้านของเธอ เธอถูกจับได้โดยหนึ่งในผู้ที่บุกรุกเข้ามาในบ้านของเธอ พวกเขาพยามยามที่จะตัดหัวของราสต้าด้วยมีด แต่เธอก็พยามยามปกป้องตัวเองด้วยแขนซึ่งเป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียแขนไป ราสต้ารอดมาได้จากเหตุการณ์ในวันนั้น แต่ต้องออกจากหมู่บ้านไปแบบถาวร สามีของเธอได้รับเงินจำนวน 600 คีน่า จากผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเพื่อชดเชยที่ได้ทำร้ายภรรยาของเขา แต่ราสต้ากลับไม่เคยได้รับเงินจำนวนนั้นจากสามีของเธอเลย และเธอต้องขอความช่วยเหลือจากญาติของเธอในหมู่บ้านคุดจิพที่ซึ่งเธออาศัยอยู่ในปัจจุบัน
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แพทริค บาร์ตา คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟซีซีที) อีเมล์ Patrick.barta@wsj.com หรือ โทรศัพท์หมายเลข 081-309-9109 นอกจากนี้ยังสามารถติดตามการประกาศผลรางวัลได้ที่ http://fcct.onasia.lightrocketmedia.com และสามารถรับชมภาพผลงานที่ได้รับรางวัลในแต่ละประเภทได้ที่ www.fccthai.com
- Log in to post comments